วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ขั้นตอนการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ ด้วยตนเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ จะสังเกตุได้ว่า มีผู้ขับขี่ยานพาหนะในท้องถนนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก รวมถึงผู้ขับขี่มือใหม่ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหลายคนอาจจะยังไม่เคยต่อทะเบียนรถและชำระภาษีรถประจำปีกัน ซึ่งบางท่านอาจใช้บริการจากไฟแนนซ์ให้จัดการแทน  ซึ่งไม่จำเป็นเลยครับ วันนี้สวนหรรษาของเราจึงนำ วิธีการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ ด้วยตนเองแบบง่ายๆมาฝากครับ

ท่านสามารถยื่นต่อทะเบียนรถและชำระภาษีได้ทันที ณ สำนักงานขนส่งที่ท่านมีภูมิลำเนาอยู่ โดยท่านต้องเตรียมเอาสาร/หลักฐาน ดังต่อไปนี้

1  หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ

2.  หลักฐานการจัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535
ขั้นตอนการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ
1.  ในขั้นแรก ท่านต้องนำรถของท่านเข้ารับการตรวจสภาพ ณ งานตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดและสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขาทั่วประเทศ หรือขอประวัติรถจากสำนักงานขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียนไว้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานประกอบการตรวจสภาพรถเอกชน 

2.  เมื่อท่านได้ใบรับรองการตรวจสภาพรถมาแล้ว ให้ใช้ใบรับรองการตรวจสภาพนั้น และแบบคำขอต่ออายุทะเบียนรถ ที่ท่านกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับหลักฐานที่เตรียมมา ไปยื่นคำร้องขอต่ออายุทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ 

3.  หลังจากนั้นให้ท่านไปชำระเงินค่าภาษีรถ 

4.  เมื่อเสร็จสิ้น ท่านจะได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถคืน
 

เท่านั้นก็เสร็จสิ้นแล้วครับ สำหรับการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ จะเห็นว่าไม่ลำบากและยุ่งยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมครั้บ แต่ก็มีวิธีที่สะดวกกว่านั้นอีก สำหรับท่านที่ไม่อยากเดินทางไปดำเนินการที่ขนส่ง ก็อาจใช้บริการต่อทะเบียนและชำระภาษีรถออนไลน์กับกรมขนส่งทางบกก้ได้ครับ


การต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถ แบบออนไลน์

โดยเข้าไปที่ https://www.dlte-serv.in.th/dltWeb/




ซึ่งสำหรับทานที่ยังไม่เคยลงทะเบียน ต้องดำเนินการลงทะเบียนก่อนนะครับ จึงจะได้ รหัสสมาชิก และรหัสผ่าน มาใช้เข้าสู่ระบบ


เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว ให้เลือก ยื่นชำระภาษีรถ




หลังจากนั้นก็ลงทะเบียนรถของท่านได้เลยครับ




เสร็จแล้วก็จะได้หน้านี้มา ให้คลิ๊กที่  ยื่่นชำระภาษี





หลังจากนั้น ระบบก็จะแสดงรายละเอียดของจำนวนเงินที่เราต้องจ่าย โดยต้องเตรียมเลขที่กรรธรรม์ไว้ด้วย เพราะระบบจะถามเช่นกัน



หลังจากตรวจสอบรายละเอียดเรียบร้อยและถูกต้องแล้ว ก็ไปเลือกวิธีการชำระเงินเลยครับ



เมื่อชำระเงินเสร็จสิ้นแล้ว ก็ถือว่าเสร็จกระบวนการแล้วครับ


เห็นไหมครับ ว่าการต่อทะเบียนรถ และชำระภาษีรถนั้นง่ายนิดเดียว ไม่ว่าจะไปต่อเองที่ขนส่ง หรือแบบออนไลน์ ท่านก็สามารถทำเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งไฟแนนซ์แต่อย่างใด 




ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ แบบต่างๆ>>>

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ >>


วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

คู่มือการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ

           สำหรับการขับขียานพาหนะบนท้องถนนนั้น สิ่งที่ผู้ขับขี่จะขาดไม่ได้ ต้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลานั้น อย่างหนึ่งก็คือ ใบขับขี่ ซึ่งการจะได้ใบขับขี่มานั้น ค่อนข้างยากลำบากมากขึ้น เนื่องจาก การสอบใบอนุญาติขับขี่ในปัจจุบันนั้นค่อยข้างยุ่งยาก ละเอียด และมีความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น โดยด่านสำคัญที่สุดที่ผู้สอบใบขับขี่มักจะสอบไม่ค่อยผ่านกันก็คือ การสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ ซึ่งบางคนต้องมาสอบถึงหลายครั้งกว่าจะผ่านในขั้นตอนนี้ไปได้

           วันนี้สวนหรรษาของเราจึงได้เอา คู่มือการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ มาฝากครับ ซึ่งหลังจากได้อ่านคู่มือนี้แล้ว ต้องขอบ้ลยอกว่า สามารถช่วยได้มากจริงๆครับ มีคำอธิบายวิธีการผ่านด่านทดสอบในแต่ละขั้นตอนแบบละเอียดกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าศึกษาคู่มือนี้และปฏิบัติตามอย่างจริงจังแล้ว การสอบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติที่หลายๆคนบ่นว่ายาก จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆที่ผู้ขับขี่ทุกท่านไปทันที

คู่มือการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ >>>

เครดิต:  http://www.slideshare.net/foxman555/ss-23828995
             ขอขอบคุณอาจารย์รุ่งโรจน์ จิตต์ล้ำเลิศกุล สำหรับความรู้ครับ



ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ แบบต่างๆ>>>

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ >>

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่ แบบต่างๆ

ภายในสภาพการจราจรที่คับคั่งแบบนี้ ใบขับขี่นั้นถือได้ว่าเป็นเอกสารสำคัญที่ต้องอยู่คู่กับผู้ขับขี่ยานพาหนะ และสำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุ หรือใกล้จะหมดอายุนั้น การต่ออายุใบอนุญาติขับขี่ ไม่ใช่เรื่องยาก วุ่นวาย และน่ากังวลใจแต่อยากใด ในวันนี้สวนหรรษาของเรามีขั้นตอนการขออนุญาติต่ออายุใบอนุญาติขับขี่แบบต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกๆท่านเตรียมตัว และปฏิบัติกันต่อไปมาฝากครับ


การต่ออายุใบขับขี่จากชนิดชั่วคราว เป็น 5 ปี


หลักฐานที่ใช้

1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน (กรณีสูญหาย ต้องแจ้งความ และนำใบแจ้งความมาด้วย)
2. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง พน้อมสำเนา
3. ใบรับรองแพทย์


ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
2.ทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยมีการทดสอบ ดังนี้

  • ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว แดง เหลือง)
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกริยาเท้า (การเหยียบเบรค)
ซึ่งท่านต้องผ่านการทดสอบทั้งหมดดังที่กล่าวมานี้

3. ชำระค่าธรรมเนียม / ถ่ายรูป / รับใบขับขี่

หมายเหตุ

  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้้องสอบข้อเขียนใหม่
  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องเข้ารับการอบรม, สอบข้อเขียน และสอบขับรถภาคปฏิบัติใหม่


การต่ออายุใบขับขี่จากชนิด 5 ปี เป็น 5 ปี

หลักฐานที่ใช้

1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน (กรณีสูญหาย ต้องแจ้งความ และนำใบแจ้งความมาด้วย)
2. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง พน้อมสำเนา


ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
2. ทดสอบสมรรถภาพทางกาย โดยมีการทดสอบ ดังนี้
  • ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว แดง เหลือง)
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกริยาเท้า (การเหยียบเบรค)
ซึ่งท่านต้องผ่านการทดสอบทั้งหมดดังที่กล่าวมานี้

3. เข้ารับการอบรม 1 ชั่วโมง

4. ชำระค่าธรรมเนียม / ถ่ายรูป / รับใบขับขี่

หมายเหตุ

  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้้องสอบข้อเขียนใหม่
  • หากใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องสอบข้อเขียน, สอบขับรถภาคปฏิบัติใหม่ และต้องมีใบรับรองแพทย์

จากวิธีข้างต้น ไม่ยาก ไม่วุ่นวายเลยใช่ไหมครับ สำหรับการขอต่อใบอนุญาติขับขี่ ซึ่งใครที่ใบขับขี่หมดอายุ หรือใกล้จะหมดอายุ ก็รีบไปต่ออายุใบขับขี่ได้แล้วครับ ที่สำคัญอย่ารอให้ใบอนุญาติขับขี่ขาดอายุนานเกินไปนะครับ เพราะอาจจะก่อให้เกิดความยุ่งยากที่เพิ่มมากขึ้นตามมาในภายหลังได้ครับ ด้วยความปรารถนาดีจากสวนหรรษา



เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ภาคปฏิบัติ >>

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อาร์ต อิน พาราไดซ์ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ: พัทยา

           อาร์ทอินพาราไดซ์พัทยา (Art in Paradise pattaya) เป็น พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Mr.shin jae yeoul โดยการทุ่มทุนถึง 60 ล้านบาท เพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดประทับใจ ให้นักท่ิองเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศสมจริง และสนุกสนานกับการถ่ายภาพกับจิตรกรรม 3 มิติ ทั่วทั้งส่วนต่างๆของพิพิธภัณฑ์ งานนี้เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆสำหรับนักท่องเทียวที่ชอบการถ่ายภาพ และความแปลกใหม่ เหมาะสมกับทุกกลุ่ม ทุกวัยจริงๆ


           ในพิพิธภัณฑ์มีพื้นที่กว่า 5,800 ตารางเมตร ซึ่งถูกแบ่งเป็นห้องแสดงงานต่างๆ 10 ห้อง โดยในแต่ละห้องจะมีสไตล์การจัดแสดงภาพต่างๆแตกต่างกัน  ดังนี้

           1.ห้องลวงตา
           2.ห้องใต้สมุทร
           3.ห้องสัตว์ป่า
           4.ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก
           5.โถงอารยธรรม
           6.ห้องศิลปะเหนือความจริง
           7.ห้องไดโนเสาร์
           8.ห้องน้ำตกใน
           9.ห้องนิทรรศการศิลปะ
           10.ห้องวิวทิวทัศน์


           ซึ่งในทุกๆ ห้อง ท่านสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด และสร้างสรรค์จินตนาการ โพสท่าเพื่อถ่ายภาพได้อย่างอิสระเสรี ได้แบบที่ไม่เหมือนใครเลยทีเดียว



ที่ตั้ง : 
78/34 หมู่ 9 ถนนพัทยาสาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
โทร : 
038-424-500
แฟ็กซ์ : 
  038-424-588
ราคาบัตร
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 500 บาท
เด็ก 300 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.) 
คนไทย ผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท 
เด็ก 100 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.)
เปิดบริการ : 
ทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
หยุดขายบัตรเวลา 20.00 น.


แผนที่การเดินทางไปอาร์ทอินพาราไดซ์พัทยา








วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เส้นทางสู่ข้าราชการ: สำหรับผู้ที่จะสอบบรรจุเป็นข้าราชการ

           นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ อาชีพข้าราชการ ก็ยังเป็นอาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น เพราะเป็นอาชีพที่มีความมั่นคงทางด้านชีวิตในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ฐานะ ทางสังคม สิทธิต่างๆที่ได้รับมากกว่าอาชีพอื่น และมีความก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้น สวนหรรษาของเราจึงขอนำเสนอเส้นทางสู่อาชีพข้าราชการ เพื่อแนะนำแนวทางให้สำหรับคนที่อยากจะเป็นข้าราชการ ว่าต้องทำอย่างไรกันบ้าง จึงจะสามารถเป็นข้าราชการได้ ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่า เนื่องจากมีผู้ที่ต้องการจะเป็นข้าราชการจำนวนมาก เมื่อเทียบกับตำแหน่งข้า่ราชการที่มีจำนวนน้อยแล้ว ท่านจึงจำเป็นต้องสอบแข่งขันกับคนอีกจำนวนมากทีเดียว ซึ่งการสอบเข้าเป็นข้าราชการนั้นมีขั้นตอบและลำดับ ดังต่อไปนี้

1. การสอบ ภาค ก. ใบผ่านทางสู่อาชีพข้าราชการ

           ก่อนอื่นเลย สำหรับผู้ที่จะสอบเป็นข้าราชการได้นั้น จำเป็นจะต้องผ่านการสอบ ภาค ก. ซึ่งเป็นเหมือนใบผ่านทางสู่อาชีพนี้ ท่านที่อยากเป็นข้าราชการจึงจำเป็นต้องผ่านการสอบ ภาค ก. นี้ก่อน ซึ่งโดยปกติแล้ว สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. จะจัดการสอบ  ภาค ก. นี้ขึ้น ปีละ 1 ครั้ง โดยจะรับสมัครกันในช่วงพฤษภาคมของทุกปี โดยจะรับสมัครออนไลน์ทางเว็บไซต์ โดยท่านต้องติดตามข่าวสารให้ดี มิเช่นนั้นอาจจะต้องรอไปอีกปีหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งวุฒิที่ใช้วนการสมัครสอบนั้น มีตั้งแต่ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท ซึ่งทาง ก.พ ได้รับรองไว้


ตัวอย่าง ประกาศรับสมัครสอบ ภาค ก.>>>


           ลักษณะของการสอบ ภาค ก. นั้น จะเป็นการทดสอบความรู้ความสมารถทั่วไป โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มวิชาด้วยกัน คือ
           1.วิชาความสามารถทั่วไป เป็นการทดสอบความสามารถด้านคิดคำนวน และ ความสามรถด้านการใช้เหตุผล
           2.วิชาภาษาไทย เป็นการทดสอบความเข้าใจในภาษา และการใช้ภาษา

โดยตัวอย่างข้อสอบ ภาค ก. สามารถดูได้ที่นี่ >>>

           ซึ่งหลักเกณฑ์ในการสอบผ่านภาค ก. นั้น ท่านจะต้องสอบได้คะแนนรวมของทั้ง 2 วิชาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของทั้งหมด และ เมื่อท่านผ่านการสอบ ภาค ก. ก็จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผ่านการสอบ ภาค ก. และสำนักงาน ก.พ. จะส่งหนังสือรับรองการสอบผ่าน ภาค ก. ให้ท่านทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ท่านได้แจ้งไว้ ซึ่ง หนังสือรับรองการสอบผ่าน ภาค ก. นี้เอง ที่ท่านจะนำไปใช้สมัครสอบแข่งขันบรรจุเป็นข้าราชการของหน่วยงานราชการต่างๆ โดยสามารถใช้ได้ตลอดไป จนกว่า สำนักงาน ก.พ. จะประกาศยกเลิก

           นอกเหนือจากนี้ ยังมีบางหน่วยงาน ที่จัดการสอบ ภาค ก. เอง โดยไม่ใช้การสอบภาค ก. ของสำนักงาน กพ. อยู่เหมือนกัน

2. การสอบ ภาค ข. สอบเข้ารับราชการในหน่วยงานต่างๆ

           สำหรับการสอบภาคความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.)   เมื่อท่านได้ผ่านการสอบ ภาค ก. แล้ว ก็เท่่ากับว่าท่านได้รับอนุญาติให้สมัครเข้าสอบแข่งขั้นเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการของหน่วยงานราชการต่างๆได้ ซึ่งท่านต้องติดตามข่าวสารต่างๆให้ดี ว่าหน่วยงานไหนเปิดรับสมัครบ้าง ตำแหน่งใดบ้าง ซึ่งท่านจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของท่านให้ดี ว่าสามารถสมัครตำแหน่งนั้นได้หรือไม่ จะได้ไม่เสียเที่ยว ดังนั้น จะขอจัดประเภทของการสอบภาค ข. เป็น 2 ประเภท ดังนี้

           1.สำนัก กพ. เปิดสอบ ส่วนกลาง โดยประเภทนี้ สำนักงาน กพ. จะเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบภาค ข. เพื่อนำมาขึ้นบัญชีไว้ที่ส่วนกลาง ไว้ให้หน่วยงานราชการต่างๆมาขอใช้บัญชี

           2.หน่วยงานราชการ เปิดสอบเอง โดยหน่วยงานราชการที่ไม่พึงประสงค์ที่จะข้อใช้บัญชี้กลางจาก สำนักงาน กพ. จะขอดำเนินการจัดสอบเอง ซึ่งมีหลากหลายมาก

           สำหรับการสอบภาค ข. นั้นเป็นการสอบทางภาคทฤษฎี ซึ่งเนื้อหาการสอบจะเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ท่านสมัครต่างๆกันไป เช่น ถ้าท่านสมัครนักทรัพยากรบุคคล เนื้อหาการสอบ ก็จะเกี่ยวกับ การบริหารงานบุคคล และกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าท่านสมัครตำแหน่งอื่น เนื้อหาการสอบก็จะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งนั้นๆ เป็นต้น

           สำหรับหลักเกณฑ์ในการสอบผ่านภาค ข. นั้น ส่วนใหญ่จะยึดถือเอาที่ ร้อยละ 60 เช่นเดียวกับการสอบ ภาค ก. แต่ก็มีบางหน่วยงานเหมือนกันที่มาตรฐานสูงกว่านี้ โดยเมื่อท่านผ่านการสอบภาค ข. นี้หน่วย ท่านก็จะได้รับการเรียกตัวจากหน่วยงานนั้น เพื่อดำเนินการสอบภาค ค. (สัมภาษณ์) ต่อไป


3. การสอบ ภาค ค. ด่านสุดท้าย สำหรับการสอบ

           การสอบภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) หรือ การสัมภาษณ์ ผู้ที่ผ่านการสอบภาคความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.)  นั้นจะได้รับเรียกจากหน่วยงานนั้นๆให้เข้ารับการสอบ โดยคณะกรรมการสัมภาษณ์ที่หน่วยงานนั้นๆ จัดตั้งขึ้น โดยคำถามสัมภาษณ์จะเป็นการทดสอบความรู้ ทัศนคติ ไหวพริบ อุปนิสัย บุคลิก ว่าท่านเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆ หรือไม่ โดยคำถามสัมภาษณ์ที่แต่ละผู้สัมภาษณ์ต้องพบเจอ อาจจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสัมภาษณ์

           สำหรับหลักเกณฑ์ในการสอบผ่านภาค ค นั้น ส่วนใหญ่จะยึดถือเอาที่ ร้อยละ 60 เช่นเดียวกัน แต่ก็มีบางหน่วยงานเหมือนกันที่มาตรฐานสูงกว่านี้เหมือนกัน

4. ขึ้นบัญชี ผู้ผ่านการสอบคัดเลือก รอเรียกบัญชี เข้ารับการบรรจุ

           เมื่อท่านผ่านการสอบคัดเลือกดังที่กล่าวมานี้ ท่านก็จะได้รับการขึ้นบัญชีเป็นผู้ผ่านการสอบคัดเลือก รอเรียกบัญชี เข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการต่อไป โดยจะเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนสูงที่สุดลงมา ดังนั้นหากหน่วยงานที่ท่านสอบ มีตำแหน่งว่างในครั้งแรกแค่ 2 ตำแหน่ง แต่ท่านสอบได้ลำดับที่ 5 ท่านก็มีความจำเป็นจะต้องรอจนกว่าอันดับการบรรจุจะมาถึงท่าน ซึ่งจะนานหรือจะช้า ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานนั้นๆมีตำแหน่งว่างมากแค่ไหน  โดยทั่วไปแล้วบัญชีเผู้ผ่านการสอบคัดเลือก จะมีอายุ 2 ปี ซึ่งถ้าเลยกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านยังไม่ได้รับการบรรจุ บัญชีของท่านจะถูกทำการยกเลิกไป เพื่อเปิดสอบใหม่ ดังนั้นลำดับการขึ้นบัญชีจึงมีความสำคัญมากๆเช่นเดียวกัน ท่านมีความจำเป็นจะแต่งสอบแข่งขั้นกับคนอื่นๆ ทำคะแนนการสอบให้ได้สูงๆ เพื่อลำดับที่ดีที่สุด

           จากที่กล่าวท่ืั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ประสงค์จะสอบเข้ารับราชการ ซึ่งถือได้ว่ามีอัตราการแข่งขันสูง และเป็นงานหินพอสมควรเลยทีเดียว แต่ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน ขอให้ทุกท่านพยายามอย่างสุดความสามารถ สักวันหนึ่ง ผลนั้นจะตอบสนองท่านได้เป็นข้าราชการดังหวังแน่นอน และก็ได้แต่หวังว่า เมื่อท่านทั้งหลายบรรจุแล้ว จะเป็นข้าราชการที่ดี ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างใสสะอาด ไม่คดโกง เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไปนะจ๊ะ

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แนวข้อสอบ ภาค ก สำนักงาน กพ. 2556

         ในที่สุด ก็ได้กำหนดเวลาเวียนครบมาบรรจบอีกครั้งแล้ว สำหรับการสอบ ภาค ก. ของสำนักงาน กพ. ประจำปี 2556 ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกสำหรับใบเบิกทางสู่เส้นทางอาชีพสายข้าราชการ ที่ผู้ที่ต้องการจะเป็นข้าราชการต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ ดังนั้นในวันนี้สวนหรรษาของเรา จึงนำแนวข้อสอบ ภาค ก. มาฝาก ซึ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆคนไม่มากก็น้อย

ข้อสอบชุดแรกที่นำมาฝาก เป็นของอาจารย์เป้ ชลสิทธิ์ ประกอบด้วย


แนวข้อสอบ ภา ก. ที่น่าสนใจ อื่นๆ

เครดิต http://www.tlcthai.com

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีทำเทียนหอม ของชำร่วยง่ายๆที่คุณก็ทำเองได้

              สำหรับการจัดงานสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน หรืองานรื่นรมย์ สิ่งที่ขาดแทบจะไม่ได้เลยก็คงจะเป็นของชำร่วย ของที่ระลึกการจัดงาน ให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน เพื่อให้ได้จดจำสิ่งดีๆเหล่านี้ไปนานเท่านาน

              โดยของชำร่วย ของที่ระลึกที่กำลังฮิตติดอันดับอย่างหนึ่งเลยก็คือ "เทียนหอม" ซึ่งมีออกมาในรูปแบบ และลักษณะต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นของชำร่วยที่ง่ายๆ ผู้จัดงานเองก็สามารถจัดหา หรือจัดทำเองเลยก็ไม่ยากเกินความสามารถ

              วันนี้ สวนหรรษาของเราจึงขอนำเสนอวิธีทำเทียนหอมง่ายๆ เพื่อให้ท่านได้นำไปทำเป็นของชำร่วย ของที่ระลึกสำหรับการจัดงานต่างๆ ขอบอกเลยว่างานนนี้ "ไม่ยากก"

-->
วัสดุหลักที่สำคัญในการทำเทียนหอม

              1.พาราฟิน 1 กิโลกรัม
              2.บีแว็กซ์ 1 ขีด
              3.เทียนเหนียว 1 ขีด
              4.สีผสมเทียน
              5.ไส้เทียน
              6.หัวน้ำหอมกลิ่มที่ท่านต้องการ
              7.แม่พิมพ์รูปร่างต่างๆที่ท่านต้องการ

หลังจากที่จัดหาวัตถุดิบที่สำคัญต่างๆเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถเริ่มทำเทียนหอมได้แล้วครับ

วิธีทำเทียนหอม

              1. นำแผ่นพาราฟินใส่หม้อขึ้นตั้งไฟละลาย โดยใช้ความร้อนปานกลาง ซึ่งหม้อที่ใช้ควรเป็นหม้อ 2 ชั้น เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป
              2. ใส่บีแว็กซ์ และทียนเหนียวที่เตรียมไว้ลงไป และเคี่ยวจนละลายเข้ากันได้ดี
              3. ใส่สีที่ท่านได้เตรียมไว้ลงไปผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นให้ยกลงจากเตา ใส่หัวน้ำหอกกลิ่นที่ท่านโปรดปรานลงไป
              4.หลังจากนั้นให้หยอดเทียนใส่ลงในแม่พิมพ์รูปร่างต่างๆที่ท่านได้เตรียมไว้ รอให้เทียนเย็นลงเล็กน้อยจึงใส่ไส้เทียนลงไป
              5.รอให้เทียนแข็งตัวแล้วจึงแกะออกจากแม่พิมพ์ หลังจากนั้นก็ตกแต่งเทียนตามที่ท่านต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการกรีดผิวเทียน หรือตกแต่งด้วยอุปกรณ์เสริมต่างๆให้สวยงามขึ้นก็ได้

              ที่กล่าวมาดังข้างต้นนี้ เป็นเพียงขั้นตอนหลักๆของการทำเทียนหอมเท่านั้น หลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ทำ ที่จะคิดประยุกต์ สร้างสรรค์เทียนออกมาเป็นรูปแบบต่างๆ ที่แปลกใหม่ และสวยงาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ท่านสามารถสร้างสรรค์ขึ้นได้ด้วยตนเอง

              เท่านี้เราก็จะสามารถทำเทียนหอมสำหรับใช้เป็นของชำร่วย ของที่ระลึกในการจัดงานต่างๆ หรือเป็นของขวัญง่ายๆ ที่คุณก็สามารถทำเองได้แล้วครับ